เมนูอาหารไทยแนะนำสูตรดั้งเดิม ต้นตำรับแบบชาววังที่ใครมาก็ต้องลอง พร้อมวิธีการทำ
ในแต่ละปีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาหารไทยก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมเช่นกัน หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจในเรื่องการทำอาหารไทยโบราณ คงจะรู้กันดีว่ากระบวนการทำนั้นต้องใช้ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนเป็นอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันอาหารไทยบางเมนูแทบจะหาทานไม่ได้เลยตามร้านอาหารทั่วไป วันนี้จึงได้รวบรวมเมนูอาหารไทยสูตรดั้งเดิมพร้อมวิธีการทำมาแนะนำกัน จะมีเมนูอะไรบ้างนั้นไปดูกันได้เลย!
ทอดมันกุ้ง
เมนูทานเล่นยอดนิยม ที่ใครไปใครมาก็มักจะสั่งเสมอ ด้วยความเป็นเมนูที่ทานง่ายและเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มลูกค้าที่มีเด็ก เป็นการนำกุ้งสับมาปั้นให้เป็นก้อน คลุกเกล็ดขนมปังให้ทั่ว แล้วลงทอดในน้ำมันท่วมจนเหลืองกรอบ รับประทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย
ส่วนผสม
- มันหมู 50 กรัม
- หมูบด 50 กรัม
- กุ้ง 80 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กระเทียมสับ
- แป้งทอดกรอบ
- เกล็ดขนมปัง
- ผงปรุงรส
วิธีทำ
1. โขลกพริกไทย กระเทียมสับ รากผักชี ให้ทุกอย่างละเอียด
2. นำกุ้งที่ปอกเปลือกแล้วมาตำให้ละเอียด จากนำผสมมันหมู โขลกให้เข้ากัน
3. ปรุงรสเนื้อกุ้งด้วยผงปรุง ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย และเครื่องที่โขลกไว้
4. ผสมจนทุกอย่างเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน นำไปแช่เย็นทิ้งไว้ 1 ชม.
5. เมื่อครบเวลา นำเนื้อที่ได้มาปั้นเป็นทรงแบนๆ เพื่อรอทอด
6. ก่อนทอดคลุกเกล็ดขนมปังให้ทั่วชิ้น ทอดจนสีเหลืองกรอบทั้งชิ้น สะเด็ดน้ำมันให้แห้ง ทานคู่กับน้ำจิ้มบ๋วยเปริ้ยวๆ หวานๆ
7. ระหว่างทอด หุงข้าวสวยร้อนๆ รอได้เลย เพียงเท่านี้ก็กินข้าวได้ 2-3 จานแล้วว
จอแหร้ง
“จอแหร้ง” หรือเรียกอีกชื่อว่า “แกงกะทิกุ้งสดตะไคร้” เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวจังหวัดพังงา ที่มีวัตถุดิบในการทำไม่กี่ชนิด และสามารถทำทานที่บ้านได้ง่ายๆไม่ยุ่งยากเลย
วิธีการทำ
ใส่กะทิลงในกระทะแล้วตั้งไฟ เมื่อกะทิเริ่มเดือดใส่กะปิ ตะไคร้ หอมแดง และขมิ้น ลงไปคนให้เข้ากัน จากนั้นเติมกะทิลงไป ตามด้วยพริกขี้หนู รอให้เดือดอีกครั้งจึงใส่กุ้ง และปรุงรสด้วยนํ้ามะขามเปียก นํ้าปลา นํ้าตาลปี๊บ ใส่ใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้าลงไป เพียงเท่านี้ “จอแหร้ง” หรือ “แกงกะทิกุ้งสดตะไคร้” ก็พร้อมรับประทานแล้ว
แกงเขียวหวานมังคุด
แกงเขียวหวานมังคุด หลายคนคงแปลกใจและไม่เคยได้ยินว่าทำไมถึงใส่มังคุดลงไปในแกงเขียวหวาน สันนิษฐานว่าคนสมัยก่อนจะใส่ผลไม้ที่ให้รสหวานแทนการใส่น้ำตาลทรายที่มีราคาสูง
วิธีการทำ
เทกะทิลงไปเล็กน้อย แล้วนำพริกแกงเขียวหวานมาผัดจนแตกมัน ใส่เนื้ออกไก่ลงไปผัดให้พอสุก จากนั้นเติมกะทิที่เหลือลงไป ตามด้วยมะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไป รอจนเดือด ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ เมื่อแกงเดือดอีกครั้งให้ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป ตามด้วย พริกชี้ฟ้าใบโหระพา และมังคุดที่แกะแล้วลงไป ก็เตรียมเสิร์ฟได้เลย
ข้าวอบสับปะรด
อีกหนึ่งเมนูข้าวผัดที่นำมาดัดแปลงให้รสชาติกลมกล่อม ได้ความเปรี้ยวหวานจากเนื้อสับปะรดตัดความเลี่ยนได้เป็นอย่างดี เพิ่มความกรุบกรอบด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือเพิ่มความหวานด้วยลูกเกด และการจัดจานโดยใช้ลูกสับปะรดคว้านก็ช่วยเพิ่มความสวยงามน่ารับประทานยิ่งขึ้น
ส่วนผสม
- ข้าวสวย 3-4 ทัพพี
- สับปะรดภูเก็ต 1 ลูก (คว้านเนื้อออก เนื้อที่ได้นำไปหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ)
- หอมหัวใหญ่ผสมพริกหยวกหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ 1-2 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อสัตว์หั่นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ (แล้วแต่ชอบว่าจะใช้เนื้อหมู, ไก่, แฮม, อาหารทะเล, ปูอัด เป็นต้น)
- ลูกเกดดำ 1-2 ช้อนโต๊ะ
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1-2 ช้อนโต๊ะ
- เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. เริ่มจากการเตรียมสับปะรดผ่าตามยาวลูกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน คว้านเนื้อออกทั้งสองซีกนำเนื้อมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ตวงให้ได้ 1 ถ้วย เนื้อส่วนที่เหลือคั้นเอาแต่น้ำประมาณ ½ ถ้วย เตรียมไว้
2. ตั้งกระทะใส่เนย พอร้อนใส่หอมหัวใหญ่ผสมพริกหยวกลงไปผัดพอสุกมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดพอสุก
3. ใส่สับปะรดที่เตรียมไว้ลงไปผัด จนน้ำเริ่มแห้งใส่ข้าวลงไป ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาล และพริกไทย ผัดให้เข้ากัน
4. เติมน้ำสับปะรดที่คั้นไว้ลงไป ผัดต่อจนส่วนผสมเริ่มแห้ง ใส่ลูกเกดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ผัดต่ออีกนิดหน่อยก็เป็นอันเสร็จพิธี
5. จากนั้นนำข้าวที่ผัดแล้ว ใส่ลงในสับปะรดที่คว้านเตรียมไว้ ตกแต่งหน้าตาให้สวยงามสักนิด ก็พร้อมเสิร์ฟ
ยำส้มโอ
เป็นอาหารพื้นบ้านของไทย สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ทั้งคาวและหวาน ส้มโอมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ คือ หวานอมเปรี้ยว เมื่อน้ำมาคลุกเคล้ากับน้ำยำจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี
ส่วนผสมของยำส้มโอ
- ส้มโอ ปลอกเปลือก เอาเฉพาะเนื้อส้มโอ 1 ถ้วย
- กุ้งสด 5-6 ตัว
- เนื้ออกไก่ต้มฉีกเป้นเส้น 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกสดบด 2 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อมะพร้าวขูดคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำยำส้มโอ
1. นำเนื้อไก่ และกุ้ง มาลวกให้สุก จากนั้นพักไว้
2. เตรียมถ้วย ใส่ น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว พริกเผา พริกสด เนื้อมะพร้าวขูด มาคลุกจนส่วนผสมละลายเข้ากัน จากนั้นใส่ กุ้ง ถั่วลิสงคั่วและไก่ ลงไปคลุกกับน้ำยำ
3. ใส่เนื้อส้มโอลงไปคลุกกับน้ำยำ คลุกเบาๆพยายามอย่าให้เนื้อส้มโอช้ำ
4. ตักใส่จาน เป็นอันเสร็จ
แกงคั่วหัวตาลกุ้งสด
แกงคั่วหัวตาลกุ้งสด เป็นเมนูแกงโบราณขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งในปัจจุบันหารับประทานได้ยากมาก ๆ แต่ถ้าจะทำทานเองที่บ้านไม่ยากอย่างที่คิด
วิธีการทำ
ต้มกะทิให้เดือดเล็กน้อย ใส่พริกแกงเผ็ดลงไปคนให้เข้ากัน ต้มจนกะทิแตกมัน แล้วใส่หัวตาลอ่อนที่ลวกเตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้งค่อยปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ตามด้วยกุ้งสด รอจนเดือดอีกครั้งแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
แกงระแวงเนื้อ
แกงระแวงเนื้อ เป็นแกงโบราณที่มีมาจากชวา คล้ายแกงเขียวหวานแต่มีขมิ้นและตะไคร้ที่เพิ่มเติมจากพริกแกงเขียวหวาน ซึ่งปัจจุบันแกงระแวงเนื้อหารับประทานได้ยากเลยทีเดียว
วิธีการทำ
นำหางกะทิขึ้นตั้งไฟ แล้วใส่เกลือลงไป รอจนกะทิเดือด จากนั้นนำเนื้อวัวที่หั่นแล้วใส่ลงไป ตามด้วยตะไคร้ ตุ๋นประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อให้เนื้อนิ่ม ต่อมาก็โขลกขมิ้นกับตะไคร้ให้ละเอียด ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไป แล้วนำไปผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่หัวกะทิลงไปเคี่ยวให้แตกมัน จากนั้นนำเนื้อที่ตุ๋นไว้ ลงผัดกับกะทิ ใส่พริกชี้ฟ้า ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ จากนั้นก็จัดเสิร์ฟได้เลย
แตงโมปลาแห้ง
แตงโมปลาแห้งเป็นเมนูของว่างของชาววังโบราณ เป็นเมนูดับร้อนสุดสดชื่น ที่เมื่อได้รับประทานทีไรก็ชื่นใจทุกที ซึ่งเมนูนี้มีวิธีการทำไม่อยากเลย
วิธีการทำ
ซอยหอมแดง นำไปเจียวจนเหลืองกรอบ จากนั้นนำปลาดุกแดดเดียวย่างบนกระทะจนสุก แกะเอาเนื้อ มาโขลกให้ละเอียด จากนั้นนำไปคั่วจนแห้งและเหลือง ใส่หอมเจียวและน้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน หลังจากนั้นก็ตักนำไปโรยบนแตงโมได้เลย
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆและรูปภาพสวยๆบางส่วนจาก : https://www.wongnai.com/cooking/cookbooks/authentic-thai-food-recipes